QUOTE 

อาหาร 10 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกินไป

เจ้าของร้าน

เคล็ดลับการดูแลสุขภาพตามศาสตร์แพทย์จีน ว่าด้วยเรื่องอาหารการกิน 10 อย่าง ที่ไม่ควรกินมากเกิน มีดังนี้

 

1. ไข่เยี่ยวม้า 

ไข่เยี่ยวม้ามีส่วนประกอบของตะกั่ว การกินไข่เยี่ยวม้าปริมาณมากและบ่อย อาจเกิดพิษจากสารตะกั่ว นอกจากนั้นยังทำให้การดูดซึมแคลเซียมลดน้อยลง เกิดภาวะขาดแคลเซียมทำให้กระดูกผุได้ 

2. ปาท่องโก๋ 

กระบวนการทำปาท่องโก๋มีการใช้สารส้มเป็นส่วนประกอบและในสารส้มมีส่วนประกอบของตะกั่ว การกินปาท่องโก๋ทุกวันจะทำให้ไตทำงานหนักในการขับสารตะกั่ว ซึ่งเป็นพิษต่อสมองและเซลล์ประสาททำให้เสื่อมเร็ว เป็นโรคความจำเสื่อมนอกจากนี้ย้งทำให้คอแห้ง เจ็บคอโดยเฉพาะคนที่ร้อนในง่าย

3. เนื้อย่าง

ประเภทต่างๆเนื้อที่ถูกรม ย่างไฟ จะเกิดสารเบนโซไพริน  ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง 

4. ผักดอง 

การกินผักดอง หรือของหมักเกลือนานๆ จะเกิดการสะสมของเกลือโซเดียม ทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดโรคความดันเลือดสูง และโรคหัวใจได้ง่ายนอกจากของหมักดองยังมีสารก่อมะเร็ง แอมโมเนียมไนไตรต์

5. ตับหมู  

ตับหมู 1 กิโลกรัม มีโคเลสเตอรอลมากกว่า 400 มิลลิกรัม การกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลปริมาณสูงมากๆ นานๆ จะทำ ให้หลอดเลือดแข็งตัว มีความเสี่ยง ต่อโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดทางสมอง รวมถึงโรคมะเร็งด้วย 
 

6. ผักโขม ผักปวยเล้ง 

ผักขม ผักปวยเล้งมีสารอาหารอุดมสมบูรณ์ แต่มีกรดออกซาเลตมาก จะทำให้มีการขับสังกะสีและแคลเซียมออกจากร่างกายมาก เกิดภาวะขาดแคลนแคลเซียมและสังกะสี 

 

7. บะหมี่สำเร็จรูป

บะหมี่สำเร็จรูปหลายชนิดมีสารกันบูด สารปรุงแต่งรสที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายการกินบะหมี่สำเร็จรูปบ่อยๆ จะทำให้ขาดสารอาหารและเกิดการสะสมสารพิษในร่างกาย 

8. เมล็ดทานตะวัน

เมล็ดทานตะวันมีส่วนประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัว การกินเมล็ดทานตะวันปริมาณมาก จะทำให้ระบบเมตาบอลิซึมของไขมันผิดปกติ ทำให้มีการสะสมไขมันที่ตับได้ เป็นอันตรายต่ออวัยวะตับ

9. เต้าหู้หมัก เต้าหู้ยี้

กระบวนการหมักเต้าหู้ มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่ายนอกจากนี้ ยังมีสารย่อยสลายโปรตีน ไฮโดรเจนซัลไฟล์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย 

10. ผงชูรส 

 คนเราไม่ควรกินผงชูรสเกินกว่า 6 กรัมต่อวัน จะทำให้กรดกลูตามิกในเลือดสูง ซึ่งมีผลต่อการทำงานของ ประจุแคลเซียมและแมกนีเซียม เกิดอาการปวดศีรษะ ใจสั่น คลื่นไส้ นอกจากนี้ มีผลเสียต่ออวัยวะสืบพันธุ์ด้วย

 

 

ที่กล่าวมาเป็นภูมิปัญญาโบราณ ความเชื่อที่สืบทอดปฏิบัติกันมา ปัจจุบันมีการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายมากขึ้น

 

ขอบคุณข้อมูล  facebook มูลนิธิหมอชาวบ้าน
ขอบคุณภาพประกอบ satunpao.go.th, articles.spokedark.tv, ipensook.com, media1.th.88db.com, kestrelling.com,tlcthai.com,doyouknow.in.th, dailynews.co.th


 

แสดงความคิดเห็นที่ 0-0 จากทั้งหมด 0 ความคิดเห็น

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ E mail  masasom.7@gmail.com เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้


เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

หมวดหมู่สินค้า

ระบบสมาชิก

 เพิ่มเพื่อนด้วย Line
ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดนี้ 


เพิ่มเพื่อน

 :ID patijja

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม2,578,661 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,706,240 ครั้ง
เปิดร้าน15 ส.ค. 2556
ร้านค้าอัพเดท30 ก.ย. 2568



พูดคุย-สอบถาม