เครื่องมือโบราณบางส่วนที่ทำจากสัมฤทธิ์ (ภาพจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
สัมฤทธิ์ (อังกฤษ: bronze; โบราณเขียน "สำริด") หมายถึง โลหะประสมทองแดงชนิดหนึ่ง ที่มีคุณลักษณะแปรผันหลากหลาย ปกติมีดีบุกเป็นส่วนประกอบหลัก แต่บางครั้งก็มีธาตุอื่น ๆ เช่นฟอสฟอรัส, แมงกานีส, อะลูมิเนียม หรือ ซิลิกอน สัมฤทธิ์เป็นโลหะที่แข็งแรง และเหนียว และมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในทางอุตสาหกรรม และมีความสำคัญเป็นพิเศษในสมัยโบราณ จนนักโบราณคดีเรียกยุคหนึ่งว่า ยุคสัมฤทธิ์
เทวรูปสำริด (ภาพจาก http://oknation.nationtv.tv/blog/voranai/2007)
ประวัติ
การใช้สัมฤทธิ์นับว่ามีนัยสำคัญต่ออารยธรรมใด ๆ ก็ตามที่ใช้โลหะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ อาวุธ เกราะ และวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ เช่น แผ่นประดับอาคาร ที่ทำมาจากสัมฤทธิ์ล้วนมีความแข็งกว่า และทนทานกว่าหินและทองแดง (Chalcolithic) ที่เคยใช้กันมา การใช้ในสมัยแรก ๆ บางครั้งสารหนูในธรรมชาติที่ไม่บริสุทธิ์ก็มีส่วนสร้างโลหะประสมธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมขึ้นมา เรียกว่า "arsenical bronze"
สัมฤทธิ์ที่มีส่วนประกอบดีบุกสมัยแรกสุดนั้น เริ่มมีการใช้เมื่อ 4 พันปีก่อนคริสตกาล ในภูมิภาคซูซา (Susa) ในประเทศอิหร่าน และบางพื้นที่ในลูริสถาน (Luristan) ประเทศอิหร่าน และเมโสโปเตเมีย ประเทศอิรัก
ขณะที่ทองแดงและดีบุกนั้นสามารถเกิดขึ้นอยู่ด้วยกันตามธรรมชาติ แต่ทว่าแร่ดิบทั้งสองนี้ไม่ค่อยจะพบอยู่ด้วยกัน แม้จะพบในแหล่งแร่โบราณแห่งหนึ่งในประเทศไทย และแห่งหนึ่งในประเทศอิหร่าน แต่ก็นับเป็นตัวอย่างที่หาได้ยาก
งานสัมฤทธิ์ที่สร้างด้วยมือมีผลต่อให้เกิดการค้าเสมอมา ความจริงแล้ว นักโบราณคดีคาดว่า การค้าดีบุกที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง เป็นเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคเหล็ก ในยุโรปนั้น แหล่งดีบุกที่สำคัญคือเกาะเกรตบริเตน ปัจจุบันความสำคัญของสัมฤทธิ์น้อยลง จะพบเห็นได้จากงานศิลปะเท่านั้น เนื่องจากมูลค่าของการสร้างงานด้วยสัมฤทธิ์นั้น มีความสวยงามกว่าวัสดุอื่น เช่น เหล็ก ทองเหลือง หรือทองแดง
สำริด : โลหะที่เปลี่ยนโลก
“สำริด : โลหะที่เปลี่ยนโลก" เป็นทั้งคำถามและคำตอบอยู่ในตัวเอง ผู้อ่านคงสงสัย ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น เปลี่ยนโลกในที่ไม่ได้หมายถึงด้านกายภาพเป็นสำคัญ แต่หมายถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการในสังคม วัฒนธรรม พฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมของมนุษย์แล้วคำถามก็จะตรงประเด็นยิ่งขึ้น จริงหรือที่โลหะสำริดเป็นสิ่งหนึ่งที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
อะไรคือสำริดกังสดาลของเก่าทำจากสำริด(ภาพโดย Admin)
กังสดาลของเก่าทำจากทองเหลือง(ภาพโดย Admin)
“สำริด” หมายถึงโลหะที่มีส่วนผสมของแร่ทองแดงเป็นหลัก และช่างตั้งใจที่จะผสมแร่ดีบุกเข้าไปด้วย เผาในอุณหภูมิประมาณ ๑,๒๐๐ องศาเซลเซียส โดยทั่วไปคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการทำเครื่องมือใช้และเครื่องประดับสำริด จะใช้ดีบุกผสมราว ๑๐-๑๕ เปอร์เซ็นต์ แต่ตัวอย่างสำริดบางชิ้นจากแหล่งโบราณคดีบ้านดอนตาเพชร จังหวัดกาญจนบุรี ช่างตั้งใจที่ผสมดีบุกเข้าไปถึง ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผิวสำริดมีความขาวและมันวาว เรียกว่า High tin Bronze นิยมนำไปหล่อเป็นเครื่องประดับลูกกระพรวนสัมริด หลากหลายรูปแบบ พบกระจายตัวอยู่ทั่วไป อายุในราว 2,000-2,500 ปี(ภาพจาก http://oknation.nationtv.tv/blog/voranai/2007)
เครื่องประดับทำจากสำริด จากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง อายุในราว 2,00 ปี
คนโบราณทำสำริดได้เองหรือ?
ในดินแดนประเทศไทยเมื่อราวเกือบ ๔๐๐๐ ปีมาแล้ว มีหลักฐานว่าคนโบราณในยุคก่อนประวัติศาสตร์ รู้จักหล่อเครื่องมือเครื่องใช้สำริดขึ้นเอง ตัวอย่างที่แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี ขุดค้นพบแม่พิมพ์ขวาน ใบหอกสำริด ตัวแม่พิมพ์เป็นแบบแม่พิมพ์ ๒ ชิ้นจากหินทรายพบเบ้าดินเผาที่ใช้หลอมทองแดงกับดีบุก บางชิ้นยังมีคราบเศษสำริดติดอยู่ข้างใน เมื่อทำด้วยแม่พิมพ์หินทราย ก็ทำได้ซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง ได้เป็นจำนวนมาก ขวานและใบหอกคงนำไปหักร้างถางพงเพาะปลูก ล่าสัตว์ พัฒนาที่อยู่อาศัย และเป็นสินค้าอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต จากยุคที่ต้องใช้ขวานหินขัด และเครื่องมือกระดูก ในการดำรงชีวิต มาสู่ยุคบุกเบิกและมีพัฒนาการอันเนื่องมาจากการค้นพบโลหะ ที่มีคุณสมบัติในการทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ได้เหมาะสมกว่า
พวกเขาหาแร่ทองแดงและดีบุกมาจากไหน?ตาชั่งแขวนโบราณรุ่นแรกๆทำจากสำริด(ภาพโดย Admin)
ตาชั่งแขวนโบราณรุ่นแรกๆทำจากสำริด(ภาพโดย Admin)
เป็นที่ทราบว่า แหล่งโบราณคดีที่ผลิตเครื่องมือสำริดเช่น ที่บ้านเชียง หรือที่บ้านนาดีจังหวัดอุดรธานี ไม่มีทั้งทองแดงและดีบุก ทำให้มองเห็นภาพของตลาดการค้าขาย แลกเปลี่ยน สินค้า ที่เป็นวัตดิบและผลิตภัณฑ์ที่สำเร็จรูป
ตัวอย่างของเหมืองทองแดงที่ทำกันในช่วงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย พบที่ภูโล้น อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย และที่เขาพุคา จังหวัดลพบุรี และยังพบแหล่งโบราณคดีที่ว่ามีกากแร่ ทับถมกันสูงมาก อันเป็นที่ผลิตก้อนทองแดงสำเร็จรูปรวมทั้งขวานทองแดงเช่นที่ แหล่งโบราณคดีอ่างเก็บน้ำนิลกำแหง จังหวัดลพบุรี อย่างน้อยน่าจะมีคำตอบให้แล้วว่า ทองแดงคนโบราณบ้านเชียง ไปได้มาจากไหน ส่วนดีบุกนั้นมีมากในภาคใต้ของประเทศไทย รวมทั้งกล่าวว่ามีในประเทศลาว
พวกเขารู้เรื่องโลหะกรรมที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้อย่างไร?
ที่แหล่งโบราณคดีอ่างเก็บน้ำนิลกำแหง จากการศึกษาก้อนหินขี้แร่พบว่าการถลุงแร่ทำโดยเติมเชื้อคือ แร่ฮีมาไทด์(hematite flux)เพื่อช่วยให้การเผาไหม้และหลอมเหลวแร่ทองแดงง่ายขึ้น ในระดับอุณหภูมิประมาณ ๑,๑๕๐- ๑,๒๕๐ องศาเซลเซียส หากกากแร่และตระกรันมีโลหะเจือปนอยู่เล็กน้อยแสดงว่าการหลอมแร่ทองแดงได้ผลดี ก้อนทองแดงก็จะนำไปหล่อวัตถุแบบไล่ขี้ผึ้งหรือเทลงในแม่พิมพ์ตามต้องการ เบื้องหลังภูมิปัญญาเหล่านี้ เชื่อว่ามาจากประสบการณ์ การบ่มซับความรู้จากช่างดลหะรุ่นสู่รุ่น รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างต่างชุมชนระฆังสำริด พบเป็นจำนวนมากในแหล่งโบราณคดีทั่วภูมิภาค อายุในราว 2,000 ปี (ภาพจาก http://oknation.nationtv.tv/blog/voranai/2007)
เรารู้จักสำริดดีแค่ไหน?
นิทรรศการครั้งนี้มีหลายๆ เรื่องที่จะทำให้เรารู้จักสำริดดีขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่สำริดในประเทศไทยเท่านั้น ยังได้รู้เรื่องสำริดในถิ่นอื่นๆ ของโลกอีกด้วย สำหรับในประเทศไทย มีหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวกับโลหะกรรมสมัยโบราณ ส่วนผสมของสำริด หรือแม้แต่เรื่องที่คิดว่ารู้แล้วแต่เอาเข้าจริง ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เช่น สีของสำริดจริง ๆ แล้ว ไม่ใช่สีเขียวสนิมสำริดอย่างที่เห็นในพิพิธภัณฑ์ หรือสีของสนิมก็เช่นกัน มีทั้งสีเขียว สีฟ้า สีน้ำตาลอมเขียว สนิมเป็นโรคร้ายของสำริด แล้ววิธีการดูแลรักษาเครื่องใช้สำริด ไม่ให้เกิดสนิม ทำได้อย่างไร หรือจะหยุดสนิมสำริดไม่ให้เกิดอันตรายกับเครื่องใช้สำริดต่อไปอีก ควรใช้วิธีไหนถึงจะดี ท้ายสุดเรารู้ไหมว่า ตั้งแต่มนุษย์รุ้จักการทำโลหะผสมชนิดแรก คือ สำริด ปัจจุบันนี้ มนุษย์รู้จักการผสมผสานแร่โลหะ หรือ แร่อื่นๆ อีกหลายชนิด สร้างสรรค์ ให้เป็นเครื่องใช้ เป็นที่อยู่อาศัย เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก แม้กระทั้งเป็นจรวดไปเหยียบดวงจันทร์
(ที่มา : พิพิธภัณฑ์สาร สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ฉบับที่ ๒ มกราคม – มีนาคม ๒๕๔๘)
ข้อแตกต่างระหว่าง สำริด กับทองเหลือง
"สัมฤทธิ์" มีความหมายถึง "ความสำเร็จ" ในภาษาสันสฤต
"สำริด" สามารถเขียนอีกอย่างหนึ่งได้ว่า "สัมฤทธิ์" น่าจะมีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤต ตรงกับภาษาบาลีว่า สมิทฺธิ แปลว่า “ ความสำเร็จ ”รูปหล่อพญานาคโบราณทำจากสำริด(ภาพโดย Admin)
รูปหล่อพญานาคโบราณทำจากสำริด(ภาพโดย Admin)
เมื่อชาวสุวรรณภูมิเริ่มรับวัฒนธรรม เทคโนโลยี และคติความเชื่อทางศาสนาจากชมพูทวีป(อินเดีย) เมื่อประมาณ 1,800 ที่แล้ว จึงนำโลหะสำริด ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมกว่าเหล็ก ไปหล่อเป็นรูปเคารพ สร้างสรรค์เป็นงานศิลปกรรม เพื่อสนองตอบต่อความเชื่อ ประเพณีและพิธีกรรม เช่น สร้างเป็นเทวรูป พระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ ฯลฯ ยกย่องเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ สามารถดลบันดาลให้สำเร็จประโยชน์ต่าง ๆ และทำให้อยู่เย็นเป็นสุข ตามความเชื่อในแต่ละลัทธิศาสนาเทวรูปสำริด ขัดล้างเนื้อจนเห็นเป็นสีทอง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 (ภาพจาก http://oknation.nationtv.tv/blog/voranai/2007)
เทวรูปสำริด ต่าง กับเทวรูปทองเหลืองมากมาย
สำริดที่ทำเทวรูปกันส่วนใหญ่ มี 2 เนื้อ คือ
1. ปัญจโลหะ = โลหะ 5 ชนิด
1 . ดีบุก 2 . ปรอท 3. ทองแดง 4. เงิน 5. ทองคำ
2. สัตตะโลหะ = โลหะ 7 ชนิด
1. ดีบุก 2. ปรอท 3. สังกะสี 4. เหล็กละลายตัว 5 . ทองแดง 6. เงิน 7. ทองคำ
3. นวโลหะ = โลหะ 9 ชนิด
1. ชิน 2. เจ้าน้ำเงิน 3. เหล็กละลายตัว 4. บริสุทธิ์ 5. ปรอท 6 .สังกะสี 7 . ทองแดง 8. เงิน 9. ทองคำ
ในอินเดียส่วนใหญ่ จะใช้ปัญจโลหะ 5 ชนิด มาทำเทวรูปมากกว่า และที่เห็นกันในวัด โบสถ์ หรือว่าวัดแขกองค์ประธานนั้นก็เป็นสำริดเหมือนกัน [เทวรูปสำริดจะมีความเงางาม เป็นสีทองหรือสีทองแดงอร่าม ขึ้นอยู่กับส่วนผสมว่าจะมีทองแดงหรือ ทองคำมากกว่ากัน]
พระวัชรสัตว์พุทธสำริด อายุในราวพุทธศตวรรษที่ 17 (ภาพจาก http://oknation.nationtv.tv/blog/voranai/2007)
ขันทองเหลืองของเก่า(ภาพโดย Admin)
กาน้ำทองเหลืองโบราณ(ภาพโดย Admin)
ข้อแตกต่างคือ
1. เวลาเราขัดทองเหลืองนั้น ความมันวาว และความสวยงาม ต่างกับสำริดมาก คือ สำริด จะไม่ดำไว และเป็นสีทองอร่าม ใช้เวลาหลายเดือนถึงจะดำลง และงานละเอียดมาก เพราะแกะพิมพ์ด้วยมือ และราคาแพง
2. น้ำหนักทองเหลืองจะเบากว่าสำริดมากๆ เช่น สำริดองค์ประมาณ 7 นิ้ว หนักเกือบ 10 กิโล เลยทีเดียว เพราะเนื้อตัน คนขายบางคนโกหกเอาทองเหลืองที่ฐานกลวง แล้วเอาปูนใส่เข้าไปให้มีน้ำหนัก แล้วบอกเราว่าเป็นสำริดก็มี
3.เทวรูปทองเหลืองหน้าตา งาน จะบูดเบี้ยวบ้าง เพราะว่าเทยางเพื่อก้อปพิมพ์นั้นๆ ราคาเลยถูกลงมา
4. พิมพ์ เทวรูป สำริดจะมีพิมพ์เดียว คนขาย ฉลาด นำพิมพ์สำริด หลายๆองค์มารวม ซึ่งทำให้แตกต่าง (หรือเรียกว่ามิกซ์) แล้วเทเป็นทองเหลืองมาขายแล้วอัดปูนให้หนัก ( หรือเรียกว่าก้อป ) แล้วหลอกเรา บอกว่าเป็นสำริดก็มี
ลำดับธาตุบูชาแล้วเห็นผลไวที่สุดคือ 1. หิน,ดิน (จุดเริ่มต้นแห่งจักรวาล) 2. ไม้มงคล 3. สำริด (รวมธาตุศักดิ์สิทธิ์) 4. ทองเหลือง เหล็ก เงิน 5 . ซิลิก้า เรซิ่น
แต่จะศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่อย่างไร อยู่ที่เราดูแล ปรนนิบัต ปฏิบิติ ท่านดีมากน้อยแค่ไหน มันอยู่ที่ใจ แต่จุดนี้ผมกำลังพูดถึง ธาตุที่บูชาแล้ว เกิดความสัมฤทธิ์สำเร็จ ไวที่สุดครับ (แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดพิจารณา)