ตาชั่งโบราณก่อน พ.ศ.๒๔๔๐
ประเทศไทยรู้จักใช้วิธีชั่งตวงวัดกันแพร่หลายมาแต่โบราณกาล วิธีที่นิยมใช้กันมากได้แก่
วิธีของไทย, ของจีน และวิธีของฝรั่ง ซึ่งมีพิกัดอัตราไม่เท่ากัน ซึ่งทำให้เป็นอุปสรรคต่อความเจริญในการค้าขายพ.ศ.๒๕๔๒ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา"พระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.๒๕๔๒" ขึ้น และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่มที่ ๑๑๖ตอนที่ ๒๙ ก วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๔๒ ซึ่งมีผลให้ใชับังคับเป็นกฎหมายตั้งแต่วันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๔๒ตาชั่งโบราณ อายุประมาณ ๑๐๐ ปี ได้รับการบริจาคจากนายโอฬาร รื่นรมย์ ปัจจุบันจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประจำตำบลพลงตาเอี่ยม อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยองตาชั่งโบราณก่อน พ.ศ.๒๔๔๐
ตาชั่งโบราณ อายุประมาณ ๑๐๐ ปี ได้รับการบริจาคจากนายโอฬาร รื่นรมย์ ปัจจุบันจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประจำตำบลพลงตาเอี่ยม อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
ที่มาข้อมูล ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม
...............................................................................................................................................
ตาชั่งโบราณจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์หนองช้างน้อย วัดศรีสุพนอาราม ตำบลหนองช้างใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
ตาชั่ง คือ เครื่องมือที่ใช้ในการวัดน้ำหนักของสิ่งของ ซึ่งจำเป็นในการแลกเปลี่ยนซื้อขายสิ่งของ โดยนำน้ำหนักมาตีเป็นราคาหรือประเมินกับสิ่งที่จะต้องการแลกด้วย นับว่าเป็นเครื่องมือที่สะท้อนให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนซื้อขายระหว่างชุมชน หรือบางครั้งอาจเป็นการซื้อขายกันในระดับภูมิภาคด้วยซ้ำไป พ่อค้ามักพกตาชั่งติดตัวหรือขบวนค้าขาย ตาชั่งจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก ขึ้นอยู่กับสิ่งที่นำมาชั่ง เช่น ถ้าเป็นพวกสมุนไพร เกลือ ก็อาจเป็นตาชั่งขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ถ้าเป็นพวก เหล็ก สัตว์จำพวก วัวหรือควาย ก็ต้องใช้ตาชั่งขนาดใหญ่
ที่มา ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม
ดูสินค้าตาชั่งโบราณทั้งหมดได้ที่นี่